นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
|
บทบาท |
หน้าที่รับผิดชอบ |
---|---|
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล |
(1) จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ และต้องทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม (2) จัดให้มีขั้นตอนการปฏิบัติ เพื่อควบคุมการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (3) จัดให้มีขั้นตอนการปฏิบัติ และช่องทางในการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ให้เป็นไปตามบทบัญญัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (4) แจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแก่สำนักงาน โดยมิชักช้า เว้นแต่การละเมิดดังกล่าวไม่มีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล (5) จัดให้มีการบันทึกรายการเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถตรวจสอบได้ ตามมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (6) จัดให้มีการตรวจสอบ สอบทานมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมไว้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคล ยังธำรงไว้ซึ่งความลับ ความครบถ้วนถูกต้อง และสภาพพร้อมในการใช้งาน และให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง |
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล |
(1) ปฏิบัติตามข้อสั่งการของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล นโยบาย และขั้นตอนการปฏิบัติ ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (2) จัดให้มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งที่ได้รับจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (3) จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ (4) แจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดขึ้นแก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (5) จัดทำและเก็บรักษาบันทึกรายการของกิจกรรมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของมูลนิธิ (6) แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สถานที่ติดต่อ (ถ้ามี) (7) จัดให้มีและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล(ถ้ามี) |
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล |
(1) ให้คำแนะนำแก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลรวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติฉบับคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (2) ตรวจสอบการดำเนินงานของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (3) ประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติฉบับคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (4) รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนล่วงรู้หรือได้มาเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติฉบับคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล |
4.2 บทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบของคณะกรรมการมูลนิธิ คณะกรรมการบริหาร/คณะกรรมการสถาบัน ผู้อำนวยการของหน่วยงานของมูลนิธิ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พนักงานและลูกจ้าง
บทบาท |
หน้าที่รับผิดชอบ |
---|---|
คณะกรรมการมูลนิธิ |
(1) ประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และขั้นตอนการปฏิบัติ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (2) แต่งตั้งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (ถ้ามี) (3) แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ถ้ามี) (4) ปฏิบัติตามกฎหมาย นโยบาย และควบคุมกำกับดูแลให้หน่วยงานของมูลนิธิปฏิบัติตามกฎหมาย นโยบาย และขั้นตอนการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด (5) ดำเนินการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้ และพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล |
คณะกรรมการบริหาร/คณะกรรมการสถาบัน |
(1) ควบคุมกำกับดูแลให้หน่วยงานของมูลนิธิ ปฏิบัติตามนโยบาย และขั้นตอนการปฎิบัติของมูลนิธิ ที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (2) สนับสนุนการจัดมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของหน่วยงานของมูลนิธิ (3) ติดตามการทวนสอบมาตรการรักษาความความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของหน่วยงานของมูลนิธิอย่างสม่ำเสมอ (4) สนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในการปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายฉบับนี้ |
ผู้อำนวยการของหน่วยงานของมูลนิธิ |
(1) จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของหน่วยงานของมูลนิธิที่รับผิดชอบ (2) จัดให้มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่รับผิดชอบตามข้อสั่งการของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ตามนโยบาย และขั้นตอนการปฏิบัติ (3) ทวนสอบมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอ (4) ดูแลและสนับสนุนการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (5) ส่งเสริมให้พนักงานปฏิบัติตามนโยบาย และแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และตักเตือนลงโทษทางวินัย กรณีที่พบเห็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม (6) แจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดขึ้นแก่อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ |
พนักงาน/ลูกจ้าง |
(1) เรียนรู้ทำความเข้าใจและปฏิบัติตามนโยบาย และขั้นตอนการปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของมูลนิธิโดยเคร่งครัด (2) ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานของมูลนิธิอย่างเต็มที่ ในการให้ข้อมูลเพื่อการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลที่หน่วยงานของมูลนิธิเก็บรวบรวมไว้ ป้องกันและสอดส่องดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของหน่วยงานของมูลนิธิให้มีความมั่นคงปลอดภัย (3) รายงานต่อหน่วยงานของมูลนิธิทันทีเมื่อพบเห็นการละเมิด ขโมย ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่อาจสร้างความเสียหายให้หน่วยงานของมูลนิธิ หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง |
5.1 มูลนิธิจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างมีขอบเขตจำกัดเท่าที่จำเป็น ภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม และการจัดเก็บข้อมูลจะจัดเก็บจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง ให้เจ้าของข้อมูลทราบหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล แล้วแต่กรณี เว้นแต่เป็นไปตามข้อกำหนดมาตรา 24 และมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
5.2 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว มูลนิธิฯ จะต้องขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน เว้นแต่การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เป็นไปตามข้อยกเว้นตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
5.3 มูลนิธิจะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกระบุไว้ในแบบฟอร์ม คำร้อง หรือเอกสารคำขอที่เป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งที่เป็นเอกสารหรือผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยพนักงานที่ดำเนินการรับทราบและปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ ระเบียบ นโยบายและขั้นตอนการปฏิบัติ ของมูลนิธิ โดยข้อมูลดังกล่าวจะถูกตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วนของข้อมูล และปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ
6.1 การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของมูลนิธิ มีวัตถุประสงค์และหลักการดำเนินการที่สอดคล้องตามข้อ 5.1 หลักการในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยมูลนิธิอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นให้แก่หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกภายใต้ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และภายใต้บทบัญญัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
6.2 ในกรณีที่มูลนิธิ ได้ว่าจ้างหน่วยงานอื่นดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การปรับปรุงหรือดูแลระบบฐานข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล มูลนิธิจะกำหนดให้หน่วยงานที่รับจ้างดังกล่าวเก็บรักษาความลับและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และกำหนดข้อห้ามมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปใช้นอกเหนือจากของมูลนิธิ โดยให้มีการลงนามในบันทึกข้อตกลงการไม่เปิดเผยข้อมูลทุกครั้งก่อนอนุญาตให้เริ่มปฏิบัติงาน หรือเข้าถึง และใช้ข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของมูลนิธิ
การส่งหรือการโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ ประเทศปลายทางหรือองค์การที่รับข้อมูลส่วนบุคคลต้องมี มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
ในกรณีที่ประเทศปลายทางไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามข้อยกเว้นตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด
8.1 มูลนิธิจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดเกี่ยวกับการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ
8.2 ในกรณีที่กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ มูลนิธิจะกำหนดระยะเวลาในการจัดเก็บตามความจำเป็นที่เหมาะสมในการปฏิบัติงานของมูลนิธิ และเมื่อพ้นระยะเวลาการเก็บรักษาดังกล่าว มูลนิธิจะดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มั่นใจว่าสามารถใช้สิทธิที่มีอยู่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้ ดังนี้
9.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและขอให้มูลนิธิทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงขอให้มูลนิธิ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมต่อมูลนิธิ ให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
9.2 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบางส่วนหรือทั้งหมด
9.3 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมกับมูลนิธิได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับมูลนิธิ
9.4 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้มูลนิธิแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือเพิ่มเติมข้อมูลให้สมบูรณ์
9.5 สิทธิในการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้มูลนิธิทำการลบหรือทำลายข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
9.6 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
9.7 สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้กับมูลนิธิ ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือ ตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเอง
9.8 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
มูลนิธิอาจปฏิเสธการใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามขั้นตอนการปฏิบัติที่มูลนิธิกำหนดขึ้นตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
มูลนิธิจะจัดให้มีช่องทางเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อมายังมูลนิธิ ผ่านช่องทางการติดต่อที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ ในกรณีที่มูลนิธิปฏิเสธคำร้องขอข้างต้น มูลนิธิจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่มูลนิธิ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล กรรมการมูลนิธิ กรรมการบริหาร/กรรมการสถาบัน ผู้อำนวยการ หรือ พนักงานของมูลนิธิ ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าว
มูลนิธิกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ การแก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลโดยมิชอบ ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพ รวมทั้งการประเมินและการบริหารความเสี่ยง
มูลนิธิจะจัดให้มีการทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อย่างน้อย 2 ปี ครั้ง หรือเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่มีผลกระทบกับนโยบายอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ที่หน้าเว็บไซต์ของมูลนิธิ www.fid.or.th และจะแจ้งให้ทราบทางช่องทางอื่นๆ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้เพื่อความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการให้บริการจะแจ้งวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายให้ทราบอย่างชัดเจน
รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
1. อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 75/6 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
โทร : 02 3546 639
Website : www.fid.or.th
2.อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
สถานที่ติดต่อ : อาคารกรมโรงงานอุตสาหกรรม ชั้น 6 ถนนพระสุเมรุ 57 แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
โทร : 02 280 7272
Website : www.thaieei.com
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว นี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ งานทดสอบผลิตภัณฑ์ งานสอบเทียบเครื่องมือ งานรับรอง งานที่ปรึกษา งานวิจัยพัฒนา งานฝึกอบรม งานประชาสัมพันธ์ งานสมาชิกและงานอื่นๆ ภายใต้ภารกิจของสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า "กิจกรรมการประมวลผล") ได้ทราบและเข้าใจรูปแบบการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย ("ประมวลผล") ข้อมูลส่วนบุคคลที่ สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า "สถาบัน")ดำเนินการ ในฐานะ ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากท่านเพื่อการดำเนินการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้
ทั้งนี้สถาบันดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
1. ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
สถาบันดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานความจำเป็นเพื่อการปฎิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ และตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความจำเป็นในการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ
2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
สถาบันดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
2.1.เพื่อความจำเป็นในการส่งมอบการให้บริการ
2.2 เพื่อความจำเป็นประกอบสัญญาในการส่งมอบงานให้กับหน่วยงานเจ้าของโครงการ
2.3 เพื่อความจำเป็นในการดำเนินการตามกฎหมาย
2.4 เพื่อความจำเป็นในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
2.5 เพื่อความจำเป็นในการดำเนินการด้านการบัญขี การเงิน และภาษีอากร
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่สถาบันเก็บรวบรวมและใช้
เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งในข้อ 2. สถาบันดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังรายการ ต่อไปนี้
3.1. แหล่งข้อมูลและรายการข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม มีดังนี้
แหล่งและวิธีการเก็บรวบรวม |
รายการข้อมูลส่วนบุคคล
|
---|---|
1. เก็บข้อมูลจากท่านโดยตรงผ่านแบบคำขอใช้บริการ ใบสมัครเข้าร่วมกิจกรรมหรือโครงการ การตอบแบบสอบถาม การลงทะเบียน และวิธีอื่นทีมีผลเหมือนกัน
|
-ชื่อ-สกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน ศาสนา เบอร์โทร อีเมล์ ที่อยู่ ตำแหน่งงาน เลขที่หนังสือเดินทาง(กรณีเป็นชาวต่างชาติ) ลายมือชื่อ วุฒิการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน ประวัติการฝึกอบรม รูปถ่าย ผลการสอบหรือผลการประเมินสมรรถนะ รายชื่อบุคลากรที่ได้รับการรับรอง เลขที่บัญชีธนาคาร ข้อมูลความเสี่ยงด้านสุขภาพ ความสนใจและข้อมูลการเข้าใช้บริการของสถาบัน -สถาบันจะเก็บรวมรวมข้อมูลเท่าที่จำเป็นและไม่เกินกว่าที่กำหนดไว้ |
2. เก็บข้อมูลจากแหล่งอื่น ไม่มี |
|
3. ระหว่างการใช้บริการ |
ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง |
3.2. จุดประสงค์การใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล
จุดประสงค์ในการใช้ข้อมูล |
รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้
|
---|---|
1.เพื่อยืนยันตัวตนในการใช้บริการและให้บริการที่เหมาะสม |
-ชื่อ-สกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน ศาสนา เบอร์โทร อีเมล์ ที่อยู่ เลขที่หนังสือเดินทาง(กรณีเป็นชาวต่างชาติ) ลายมือชื่อ รูปถ่าย งานที่เกี่ยวข้อง และข้อมูลในการใช้บริการ |
2. เพื่อยืนยันคุณสมบัติของบุคคล |
-ตำแหน่งงาน วุฒิการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน ประวัติการฝึกอบรม ผลการทดสอบหรือประเมินสมรรถนะ ชื่อบุคคลที่ได้รับการรับรอง |
2. เพื่อความจำเป็นในการดำเนินการตามประมวลรัษฎากร |
- ชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ เลขที่บัญชีธนาคาร |
3. เพื่อการประชาสัมพันธ์กิจกรรม |
-ชื่อ-สกุล ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง |
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
4.1. สถาบันเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือนิติบุคคลดังต่อไปนี้
4.1.1. ส่งมอบข้อมูลให้เจ้าของงบประมาณ เพื่อยืนยันตัวตนของการเข้าร่วมโครงการต่างๆ ที่สถาบันร่วมดำเนินการ
4.2. เปิดเผยข้อมูลของท่านต่อสาธารณะผ่านเว็บไซท์ สื่อสังคมออนไลน์ หรือสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ของสถาบัน
5. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ของท่าน
ท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังต่อไปนี้
5.1 สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สถาบันเก็บรวบรวมอยู่ เว้นแต่กรณีที่สถาบันมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
5.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
5.3 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้
5.3.1 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่สถาบันทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
5.3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
5.3.3 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ซึ่งสถาบันได้แจ้งไว้ในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้สถาบันเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
5.3.4 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่สถาบันกำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
5.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่สถาบันเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น สถาบันสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของสถาบัน
6 ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
สถาบันเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จนกว่าจะไม่ได้รับการติดต่อใช้บริการมากกว่า 3 ปี หรือเมื่อท่านมีคำร้องขอยกเลิกความยินยอมให้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวสถาบันจะทำการ- ลบ ทำลายเมื่อหมดความจำเป็นในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
7 การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
สถาบันมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูล สูญหาย หรือมีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและ ขั้นตอนการปฏิบัติงาน เรื่องการประเมินความเสี่ยงและมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ของสถาบัน
นอกจากนี้ สถาบันได้กำหนดให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นโดยประกาศให้ทราบกันโดยทั่วทั้งสถาบันพร้อมแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยธำรงไว้ซึ่งความเป็นความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของข้อมูลส่วนบุคคล โดยสถาบันได้จัดให้มีการทบทวนนโยบายดังกล่าวรวมถึงประกาศนี้ในระยะเวลาตามที่เหมาะสม
8 การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
สถาบันอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลก็ต่อเมื่อได้รับคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย โดยส่งคำร้องโดยตรงหรือทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ pdpa@thaieei.com
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูล ผู้สืบสิทธิ์ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมายมีการคัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใด ๆ เช่น การแจ้งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล สถาบันจะดำเนินการบันทึกหลักฐานคำคัดค้านดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย
ทั้งนี้ สถาบันอาจปฏิเสธสิทธิตามวรรคสองได้ตามกรณีที่มีกฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวท่านได้
9 ความรับผิดชอบของบุคคลซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
สถาบันได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกิจกรรมการประมวลผลนี้เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยสถาบันจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด
11 การเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
ในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงประกาศนี้ สถาบันอาจพิจารณาแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทาง เว็บไซท์ อีเมล์หรือติดบอร์ดโฆษณาประชาสัมพันธ์ โดยมีวันที่ของการปรับปรุงล่าสุดกำกับอยู่ตอนท้าย
โดยในการเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการภายใต้กิจกรรมของท่าน ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในประกาศนี้ ทั้งนี้ โปรดหยุดการใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงในประกาศฉบับนี้ หากท่านยังคงใช้งานต่อไปภายหลังจากที่ประกาศนี้มีการแก้ไข จะถือว่าท่านได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวแล้ว
12 การติดต่อสอบถาม
ท่านสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับประกาศฉบับนี้ได้ที่ สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เลขที่ 57 ชั้น 6 อาคารกรมโรงงานอุตสาหกรรม(บางลำภู) แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 02-2807272 โทรสาร 02-2807277 E-Mail pdpa@thaieei.com
|
|||||||||||||||||||||
|
|