โครงการจัดทำกระบวนการตรวจสอบรับรองและตรวจติดตามสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า

ตามที่ภาครัฐได้เร่งสนับสนุนให้มีการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยขับเคลื่อนมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของประเทศ ให้สอดรับกับนโยบาย 30@30 ที่ตั้งเป้าผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือ รถยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในปี ค.ศ. 2030 หรือในปี พ.ศ. 2573  หน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่งได้จัดทำหลักเกณฑ์สำหรับการติดตั้งใช้งานสถานีชาร์จฯ ออกมาแล้ว แต่ประเด็นที่อาจจะยังเป็นปัญหาได้แก่ข้อกังวลในการใช้งานภายหลังการติดตั้ง ทั้งด้านสมรรถนะ ความปลอดภัย หรือความเที่ยงตรงของมิเตอร์ สถาบันจึงได้ริเริ่มโครงการจัดทำกระบวนการตรวจสอบรับรองและตรวจติดตามสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าตลอดอายุการใช้งานขึ้น

การดำเนินงานระยะแรกของโครงการนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลของสถานีชาร์จฯ ที่ติดตั้งใช้งานแล้ว สถาบันได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อกำหนดหัวข้อการตรวจสอบและเก็บข้อมูล โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (OR) และผู้ประกอบการภาคเอกชนหลายรายเข้าร่วมให้ข้อคิดเห็นด้วย

ตลอดระยะเวลาการดำเนินงาน สถาบันไฟฟ้าฯ ได้ส่งทีมวิศวกรของสถาบันเข้าตรวจสอบสถานีชาร์จฯ ที่ติดตั้งใช้งานในกรุงเทพและปริมณฑล ในจังหวัดต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้งประเภทที่ใช้งานในครัวเรือน (ทั้งส่วนที่เป็นสายฉุกเฉินและเครื่องอัดประจุประเภท Wall Charge) และประเภทที่ใช้งานในสาธารณะ รวมทั้งหมด 128 สถานีทั่วประเทศ เพื่อนำผลการทดสอบที่ได้มาใช้ในการร่างแนวทางมาตรฐานการตรวจสอบและรับรองและตรวจติดตามสถานีอัดประจุไฟฟ้าอย่างครบวงจร

นอกจากนี้ยังได้ทำการสัมภาษณ์ผู้บริหารของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าทั้งภาครัฐและเอกชน จำนวน 20 หน่วยงานเกี่ยวกับนโยบาย แนวทางการพัฒนา การดำเนินธุรกิจ รวมถึงปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน และนำข้อมูลที่ได้มาใช้ในการวิเคราะห์เพื่อจัดทำร่างแนวทางปฏิบัติการเชื่อมโยงและแนวทางการเชื่อมโยงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่างข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการผลักดันกระบวนการตรวจสอบและรับรองสถานีอัดประจุไฟฟ้า แนวทางการปฏิบัติมาตรฐานการกำจัดซากของสถานีอัดประจุไฟฟ้า แนวทางการวางระบบบริหารจัดการและการเชื่อมโยงความร่วมมือ (Eco System) ด้วยเทคโนโลยี 4.0

ผลการดำเนินงาน

  • ผลการทดสอบสายชาร์จฉุกเฉินที่ให้มากับรถไม่ผ่านการทดสอบทั้งหมด เนื่องจาก จ่ายกระแสเกินกว่าที่มาตรฐานกำหนด และให้เต้าเสียบที่ไม่ตรงกับมาตรฐานของประเทศไทย ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดเพลงไหม้ รวมถึงความอันตรายจากการถูกไฟฟ้าดูดในขณะเสียบและถอดปลั๊กได้
  • สถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ติดตั้งตามบ้านเรือน พบว่ามีส่วนหนึ่งที่ไม่ผ่านการทดสอบโดยเป็นผลมาจากการติดตั้งระบบดิน ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดกระแสไฟฟ้ารั้วและดูด
  • การทดสอบสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะพบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานหลายสถานีฯ อาทิ การสื่อสารระหว่างรถกับสถานี ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุทางไฟฟ้าเมื่อการอัดประจุเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ การเชื่อมต่อไฟฟ้าสลับเฟส เพิ่มความเสี่ยงอันตรายต่อผู้เข้าถึงและใช้งานได้ การไม่มีปุ่มหยุดฉุกเฉิน ทำให้ควบคุมสถานการณ์ได้ยากเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ปริมาณกระแสไฟฟ้ารั่วเกินค่ามาตรฐาน ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ไม่สามารถตรวจสอบการทำงานของเครื่องตัดวงจรกระแสเหลือ (RCD) ได้ ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือว่าเมื่อเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วแล้ว สถานีอัดประจุจะตัดการทำงานหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่พบส่วนมากมาจากการออกแบบ ติดตั้ง รวมถึงผู้ให้บริการแต่ละรายกำหนดวิธีการ และเกณฑ์การทดสอบไม่ตรงกัน สำหรับผลจากการสัมภาษณ์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า พบว่า ปัจจุบันไม่มีหลักเกณฑ์มาตรฐานการตรวจสอบที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทำให้ผลการตรวจสอบที่ได้ไม่ตรงกัน การทำงานของหน่วยงานภาครัฐยังแยกส่วนกันอยู่ ข้อมูลต่างๆ จึงไม่ตรงกันและไม่เชื่อมโยงกัน รวมทั้งยังไม่มีขั้นตอนในการจัดการสถานีอัดประจุ ชิ้นส่วนที่ชำรุดเสียหายหรือเลิกใช้งานแล้วส่งผลให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์สะสมได้ในอนาคต ทั้งนี้จากผลการสำรวจสถานีอัดประจุไฟฟ้าทั่วประเทศและการสัมภาษณ์ผู้บริหารของหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าจะนำไปสู่การจัดทำร่างต่างๆ โดยสามารถศึกษาข้อมูลของร่างต่างๆ

Scroll to Top